ตามที่ คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ได้ให้ความเห็นชอบแนวทางโครงการเนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค (Smart National Sports Park) เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ภายในสนามกีฬาหัวหมาก เพื่อให้บริการด้านการกีฬาและให้มีการดำเนินการเชิงพาณิชย์ ควบคู่กันไป โดยวางแผนไว้ 3 เฟสหลักๆ เฟสแรก ปี 2563-2565 เฟส 2 ปี 2566-2569 และเฟส 3 ปี 2570-2575 ในกรอบงบประมาณรวมกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการปรับปรุงอินดอร์ สเตเดี้ยม, ราชมังคลากีฬาสถาน, สร้างศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม, ศูนย์พัฒนาบุคลากรกีฬา, สร้างอาคารที่พักนักกีฬา 800 เตียง และ 1,200 เตียง, อาคารที่พักสำหรับประชาชน, ที่พักบุคลากรสูง 4 ชั้น, ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ, ศูนย์กีฬาทางน้ำ, ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา, ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านกีฬา
ต่อมาได้ข้อสรุปรูปแบบการลงทุน จะเปิดโอกาสให้เอกชน ออกแบบตามขอบเขตการพัฒนากิจกรรมกีฬา ตามที่ กกท. กำหนด และเอกชนเป็นผู้ลงทุนโครงการทั้งหมด โอนทรัพย์สินตกเป็นของกรมธนารักษ์ ภายใต้การกำชับโครงการของ กกทคำพูดจาก สล็อต เว็บตรง. และให้เอกชนเข้ารับจ้างบริหาร รับผิดชอบค่าบำรุงรักษา บริหารจัดการโดยการดูแลของ กกท. ภายใต้สัญญาดำเนินการ 30 ปี โดยให้เวลาช่วงก่อสร้างไว้ที่ 3 ปี ซึ่งหลักการนี้ได้มีการปรับแก้กฎหมายรองรับแล้ว จะทำให้ กกทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ไม่เป็นภาระทางการเงินต่อภาครัฐ นั้น
ล่าสุด “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ในฐานะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่า โครงการ สมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค ในเฟสแรก คาดว่าจะใช้งบประมาณ 5,000-7,000 ล้านบาท โดยจะมีการปรับปรุงสนามกีฬาหัวหมาก 4 ส่วน ส่วนแรก ปรับปรุงราชมังคลากีฬาสถาน ภูมิทัศน์โดยรอบ พื้นที่จอดรถ ให้จัดกีฬาระดับโลก ได้มาตรฐานโลก, ส่วน 2 โครงการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา เป็นการดำเนินการพื้นที่บริเวณสนามฟุตบอล 1 กกท. และสมาคมกีฬาเปตองฯ เดิม พัฒนาเป็นศูนย์สำหรับส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา ยกระดับสนามซ้อมฟุตบอลพร้อมลู่วิ่ง 400 เมตร ขึ้นไปบนดาดฟ้าอาคาร ส่วน 3 โครงการศูนย์พัฒนาบุคลากรกีฬา เป็นการพัฒนาพื้นที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ พัฒนาเป็นอาคารศูนย์ประชุม เพื่อรองรับการประชุมต่าง ๆ ของ กกท. และส่วนที่ 4 โครงการพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ ในราชมังคลากีฬาสถาน และโครงการก่อสร้างอนุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
“ตอนนี้ กกท. ได้จัดทำร่างข้อบังคับ กกท. ว่าด้วยการร่วมดำเนินโครงการของ กกท. พ.ศ. ….. เพื่อให้สามารถใช้ดำเนินกระบวนการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการ ให้เป็นไปตามกฎระเบียบปฎิบัติภายในของ กกท. และ/หรือ ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. จัดตั้ง กกท. และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ร่างดังกล่าว ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายของ กกท. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจแล้ว ซึ่งเมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานบอร์ด กกท. ลงนามแล้ว ก็จะได้ประกาศเชิญเอกชน มาร่วมโครงการ และจะมีการคัดเลือกเอกชนที่พร้อมที่สุด ก่อนลงนามร่วมกัน เพื่อเดินหน้าโครงการใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ในปี 2566 ตามขั้นตอนต่อไป”
“ดร.ก้องศักด กล่าวต่อว่า เมื่อข้อบังคับ กกท. ดังกล่าว ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้วนั้น กกท. ก็สามารถดำเนินการตามข้อบังคับได้ทันที ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลในเรื่องนี้โดยเฉพาะ จากนั้น ก็จะประกาศหาเอกชนมาร่วมลงทุน คาดว่าจะใช้เวลาอย่างเร็วสุด 6 เดือน หรือช้าสุด 1 ปี เมื่อได้เอกชนที่พร้อม ก็จะลงสนามในสัญญาร่วมทุนทำงานกันต่อไป
“ผมเชื่อว่าโครงการนี้ จะส่งผลต่อการพัฒนากิจกรรมการกีฬาไปในอีกระดับหนึ่งในอนาคต สอดรับกับยุทธศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศ รวมทั้งการพัฒนาราชมังคลากีฬาสถาน ให้เป็นสนามที่มีมาตรฐานในระดับนานาชาติ โดยให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ทำให้ กกท. ไม่เป็นภาระทางการเงินต่อภาครัฐ” บิ๊กก้อง กล่าว.